หัวฝักบัวตัน ทำอย่างไร กดอ่านวิธีทำความสะอาดง่ายๆ ได้ด้วยตัวเอง

หัวฝักบัวตัน ทำอย่างไร กดอ่านวิธีทำความสะอาดง่ายๆ ได้ด้วยตัวเอง

หัวฝักบัวตัน ขึ้นมาทีไร ทำเอาหงุดหงิดใจไม่ใช่น้อย เพราะอาบน้ำไม่ชุ่มฉ่ำอย่างเคย แต่เมื่ออ่านบทความนี้แล้ว แอดมินกรุ๊ป ‘งานบ้านที่รัก’ ต้องรักแน่ เพราะวันนี้เรามานำเสนอวิธีทำความสะอาดหัวฝักบัวให้น้ำไหลลื่นชุ่มฟูใจมาฝาก

เป็นธรรมดาที่ของใช้มาระยะหนึ่งก็เริ่มเลอะเทอะตามสภาพ อาจจะมีคราบสนิมตะกรันเกาะอยู่ตามช่องร่องรูต่างๆ ของฝักบัว จนฝักบัวที่เคยน้ำไหลฉ่ำๆ ฟูๆ เกิดงอแง น้ำไม่เต็มตาเต็มใจอย่างที่เคย และของในบ้านเรานี่แหละที่ช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้

ยาสีฟัน
บีบๆ ป้ายๆ ลงไปบนหัวฝักบัว ทิ้งไว้สักพัก แล้วใช้แปรงสีฟันเก่าๆ แปรงตามซอกเล็กซอกน้อยจนสะอาด เศษคราบเลอะเทอะต่างๆ จะหายไป

• ใช้ได้กับฝักบัวทุกวัสดุ ไม่ว่าจะเป็นพลาสติก ทองเหลือง หรือยาง
• เหมาะกับฝักบัวที่ถอดออกยาก

น้ำส้มสายชู
อีกหนึ่งไอเท็มสารพัดประโยชน์ในครัวที่ทุกบ้านน่าจะมี เพียงแค่ถอดหัวฝักบัวที่ต้องการทำความสะอาดออกมา แล้วแช่น้ำส้มสายชู 30 นาที หรือถ้าคราบสกปรกมากๆ ทิ้งไว้ข้ามคืนได้เลย จากนั้นล้างให้สะอาดแล้วใช้แปรงเล็กๆ ขจัดคราบที่ยังเหลืออยู่อีกครั้ง

• เหมาะสำหรับฝักบัวทองเหลือง นิกเกิล หรือโลหะ
• เหมาะกับฝักบัวที่ถอดหัวได้ง่าย
• ตรงรูฝักบัวที่เป็นยางซิลิโคน สามารถใช้ไม้จิ้มฟันหรือไม้แหลมเล็กๆ ช่วยทำความสะอาดในซอกเล็กๆ นั้นได้ด้วย

เบกกิ้งโซดา

อุปกรณ์สารพัดประโยชน์ในการทำความสะอาด สำหรับการทำความสะอาดฝักบัว ให้ใช้เบกกิ้งโซดาผสมน้ำเล็กน้อยจนเป็นครีม ทาหัวฝักบัวทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมง จากนั้นใช้แปรงขัดเบาๆ แล้วล้างน้ำสะอาด สิ่งสกปรกฝังแน่นก็จะหลุดออกมา

• เหมาะกับฝักบัวทุกวัสดุ
• ถ้าคราบสกปรกแน่นมากๆ ให้ใช้เบกกิ้งโซดา ⅓ ถ้วยตวง ผสมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวง แล้วเอาฝักบัวแช่ทิ้งไว้ข้ามคืน

แก้ปัญหา ส้วมตัน ด้วยอุปกรณ์ในบ้าน 4 เลเวล ก่อนต้องถึงไม้ตายสุดท้าย

แก้ปัญหา ส้วมตัน ด้วยอุปกรณ์ในบ้าน 4 เลเวล ก่อนต้องถึงไม้ตายสุดท้าย

ส้วมตัน ถือเป็นปัญหาสามัญประจำบ้านที่ต้องเจอกันสักครั้ง นึกภาพว่าเรากำลังอยู่ในช่วงเวลาเร่งด่วน ต้องรีบใช้ห้องน้ำก่อนออกไปทำงาน แล้วอยู่ๆ ชักโครกที่เต็มไปด้วยของเสียกลับกดเท่าไรก็ไม่ลง ซ้ำร้ายน้ำที่อยู่ในคอห่านก็เอ่อขึ้นมาจนล้นทะลัก บางทีก็ไหลออกมาเจิ่งนองพื้นจนทำให้เราตั้งสติไม่อยู่ กดน้ำทิ้งซ้ำหลายครั้งก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น

เหล่านี้เป็นปัญหาที่สามารถพบเจอได้ทั่วไป ซึ่งอาจเกิดได้จากการมีสิ่งอุดตันอยู่ในท่อน้ำ ไม่ว่าจะเป็นทิชชู่แบบหนาที่ไม่ละลายน้ำ เมื่อทิ้งทิชชู่ลงในชักโครกบ่อยๆ ก็อาจเกิดการสะสมจนอุดตัน หรือบางครั้งที่สุภาพสตรีเผลอทิ้งผ้าอนามัยลงไปในชักโครก ก็อาจทำให้เกิดการอุดตันได้ในทันที นอกจากนั้นแล้ว คราบไขมัน เส้นผม ก็ล้วนเป็นสาเหตุของท่อตันจนเกิดเหตุการณ์กดเท่าไรก็ไม่ลงได้ในที่สุด

เพื่อเตรียมพร้อมรับมือวิกฤตส้วมตันจนน้ำเจิ่งนอง ชาญไพบูลย์ ในฐานะบริษัทที่จำหน่ายสุขภัณฑ์มาอย่างยาวนาน จึงขอเสนอวิธีการแก้ไข ส้วมตัน ตั้งแต่ระดับเริ่มต้น จนถึงการรื้อชักโครกเพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุดและไม่กลับไปตันอีก ดังนี้

Level 1 ถ้าเริ่มรู้สึกว่าชักโครกกดไม่ค่อยลง แต่ไม่ถึงขนาดส้วมตันจริงจัง สังเกตได้จากเวลากดฟลัชน้ำแล้วชำระของเสียออกไม่หมด ให้สันนิษฐานว่าเริ่มมีคราบไขมันขังอยู่ตามท่อ ทำให้ระบบน้ำทำความสะอาดได้ไม่เต็มที่ ถ้ามีอาการดังกล่าว ให้ใช้น้ำยาล้างจานประมาณ 5-10 ช้อนโต๊ะ เทลงไปในคอห่าน ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จากนั้นให้ต้มน้ำร้อนราดตามไป วิธีนี้ดูเหมือนจะอ่อนโยน ไม่ค่อยได้ผล แต่จริงๆ แล้วมีฤทธิ์ในการทำความสะอาดและละลายไขมันอยู่แล้ว การใช้น้ำยาล้างจานจึงเป็นวิธีที่ง่าย ประหยัด และได้ผลชะงัดอย่างเหลือเชื่อ

Level 2 ถ้าน้ำยาล้างจานไม่ได้ผล เราขอให้ลองวิธีต่อไปคือการสู้ด้วยแรงดัน โดยใช้อุปกรณ์แค่ถังน้ำขนาดกลางที่ยกขึ้นได้ ใส่น้ำลงไปให้เต็มถัง (วิธีนี้ไม่แนะนำให้ใช้น้ำร้อน เพราะอาจจะลวกมือ แถมต้องใช้น้ำในปริมาณมาก อาจเกิดอันตรายได้) ยกถังให้สูงขึ้นประมาณไหล่ ตั้งถังให้เอียงประมาณ 45 องศา และให้ห่างจากปากโถพอสมควรเพื่อให้เกิดแรงดัน จากนั้นก็เทน้ำลงไปตรงๆ ทำซ้ำประมาณ 2-3 ครั้ง ยิ่งสูง ยิ่งทำมาก น้ำยิ่งเกิดการกระแทก ทำให้ของเสียที่อุดอยู่ตรงท่อระบายน้ำหลุดออกไปโดยง่าย

Level 3 ใช้ลูกยางปั๊มลม หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อที่สูบส้วมนั่นเอง ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่และร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง วิธีใช้ก็อย่างที่เรารู้ๆ คือเอาปลายลูกสูบที่เป็นยางกดลงไปตรงคอห่านที่มีน้ำอยู่ โดยมีทริกเล็กน้อยว่าให้กดลงไปเป็นจังหวะอย่างสม่ำเสมอ เมื่อน้ำถูกสูบออกจนหมด ให้เติมน้ำเพิ่มแล้วสูบไปอย่างต่อเนื่อง การกดเป็นจังหวะแบบนี้จะช่วยให้สิ่งสกปรกถูกดูดออก หรือหากเป็นของแข็งที่เข้าไปขวางท่อระบายน้ำหลุดออกมา แต่ถ้าเป็นสิ่งที่สามารถหยิบออกมาเป็นชิ้นได้ก็อย่าลืมหยิบออกมาด้วย ไม่อย่างนั้นจะไปขวางท่อจนส้วมตันได้เหมือนเดิม

Level 4 หากยังไม่ได้ผล อาจต้องใช้อุปกรณ์เสริมที่รุนแรงขึ้นอย่างโซดาไฟ หรือโซเดียมไฮดรอกไซด์ ซึ่งสามารถหาซื้อได้จากร้านขายของชำ ร้านจำหน่ายอุปกรณ์ก่อสร้าง หรือสามารถกดซื้อออนไลน์ในแอปฯ ที่คุ้นเคย โดยเลือกใช้โซดาไฟชนิดเกล็ดประมาณ 1 กิโลกรัมเทลงในภาชนะที่เป็นแก้วหรือเหล็ก ห้ามใช้พลาสติกเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นแล้วจะเละเทะกันไปข้าง เติมน้ำประมาณ 1 ลิตร คนให้เข้ากัน เมื่อละลายหมดให้เทลงในชักโครก โดยขั้นตอนนี้ต้องสวมถุงมือและหาผ้ามาปิดจมูกให้แน่นหนา เพราะโซดาไฟอาจเป็นอันตรายต่อมือและโพรงจมูกได้ จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที เทน้ำสะอาดตามอย่างน้อย 1 ถัง แล้วกดชักโครก ถึงตอนนี้ไม่ว่าจะเศษผม คราบไขมัน หรือสิ่งสกปรกใดๆ ก็จะหายไปในพริบตา

Level 5 ไม้ตายสุดท้ายก่อนการเรียกช่าง เราขอให้ลองใช้สว่านไชคอห่าน หรือที่เรียกว่า งูเหล็ก ซึ่งสามารถหาซื้อได้จากร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างในราคาที่ไม่สูงมากนัก วิธีการคือใช้ปลายสายของงูเหล็กจุ่มลงไปในชักโครก จากนั้นค่อยๆ หมุนให้ปากตะขอเข้าไปเกี่ยววัสดุที่คาอยู่ในท่อระบายน้ำให้หลุดออกมา หากยังไม่ออก ให้ใช้วิธีการเทน้ำร้อนช่วยเป็นระยะ ซึ่งหากลองทั้ง 5 วิธีแล้วยังหนีอาการส้วมตันไม่ได้ ก็สามารถเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาช่วยเหลือได้เลย

จริงๆ แล้วปัญหาส้วมตันสามารถแก้ไขได้ที่ต้นเหตุคือการไม่ทิ้งทิชชู่หรือผ้าอนามัยลงในชักโครก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญในการทำให้ส้วมตัน และนอกจากพฤติกรรมดังกล่าวแล้ว การติดตั้งชักโครกก็มีส่วนสำคัญ ทั้งการวางตำแหน่งท่อและโถชักโครก ต้องอยู่ในระยะที่เหมาะสม การวางท่อชักโครกต้องมี Slope ที่พอดี หรือแม้แต่การเลือกชักโครกก็ควรเลือกที่มีระบบน้ำแบบ Siphon-Jet ซึ่งเป็นระบบการชำระที่น้ำจะมีแรงดูด เร็ว แรง กว่าระบบอื่นๆ เพราะมีรูเจ็ตที่ช่วยเสริมแรงดันน้ำให้ทำความสะอาดได้ดียิ่งขึ้น ถ้ายังเลือกไม่ถูก โถสุขภัณฑ์ของแบรนด์ Rasland ใช้ระบบ Shiphon-Jet ทุกรุ่น หายห่วงเรื่องส้วมตันไปได้เลย (ดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม คลิก)

ทำความสะอาดอ่างอาบน้ำให้ปิ๊งเหมือนใหม่ ด้วยอุปกรณ์ที่มีทุกบ้าน!

ทำความสะอาด ‘อ่างอาบน้ำ’ ให้ปิ๊งเหมือนใหม่ ด้วยอุปกรณ์ที่มีทุกบ้าน!

คุณเคยประสบปัญหาเหล่านี้หรือเปล่า ทำความสะอาด ‘อ่างอาบน้ำ’ หรือ ‘อ่างล้างหน้า’ ทีไรก็แสบมือแสบตา เพราะฤทธิ์ของน้ำยาทำความสะอาดที่สาดไปอย่างเต็มที่ บางครั้งก็แสบไปถึงโพรงจมูกเพราะกลิ่นแรงๆ ที่สูดทีไรก็แถมความมึนหัวไปด้วย

ช้าก่อน นี่ไม่ใช่โฆษณาน้ำยาทำความสะอาดแบบไร้กลิ่น แต่เราจะชวนคนรักบ้านมาทำความสะอาดอ่างอาบน้ำและอ่างล้างหน้าด้วยอุปกรณ์ที่หาได้ภายในบ้าน หมดปัญหามือแหก แสบจมูก แถมวันไหนนึกครึ้ม อยากลุกขึ้นมาทำความสะอาดห้องน้ำตอนตีสองตีสามเพราะนอนไม่หลับ ก็สามารถพุ่งไปในครัว หยิบอุปกรณ์เหล่านี้ติดตัว แล้วเสกห้องน้ำให้สะอาดปิ๊งเหมือนใหม่ในทันที

น้ำส้มสายชู

อันดับแรก ราดน้ำไปที่อ่างล้างหน้าหรืออ่างอาบน้ำให้เปียก จากนั้นใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำส้มสายชูบริสุทธิ์ขัดไปรอบอ่าง อาจต้องออกแรงนิดหน่อยในจุดที่มีคราบหนัก แต่กรดอ่อนๆ ในน้ำส้มสายชูสามารถทำให้สุขภัณฑ์สะอาดขึ้นได้

น้ำยาล้างจาน

ถ้าคราบเริ่มหนัก ให้ใช้น้ำยาล้างจานหรือสบู่เหลวผสมน้ำ เทใส่ขวดสเปรย์ ฉีดพ่นบริเวณที่มีครบหนัก สารทำความสะอาดอ่อนๆ จะช่วยทำให้คราบจางลง ที่สำคัญคือต้องล้างน้ำให้สะอาด ไม่อย่างนั้นแล้วจะกลายเป็นคราบสบู่ด่างๆ ตามพื้นผิวแทน

เบกกิ้งโซดา

ถ้ายังเอาไม่อยู่ บ้านใครแอดวานซ์ขึ้นมานิด ให้โรยเบกกิ้งโซดาบนคราบที่สกปรกทิ้งไว้สักครู่ แล้วค่อยใช้ฟองน้ำสำหรับขัดฝักบัว ออกแรงถูคราบประมาณ 1 เหงื่อตก คราบนั้นก็จะค่อยๆ หลุดออก

เสริมอีกนิด ถ้าบริเวณไหนที่มีคราบฝังแน่นสุดใจ ให้ทำสเตปที่ 1 2 3 วนซ้ำ 2-3 รอบ คราบสกปรกก็จะค่อยๆ หลุดออกโดยอัตโนมัติ ห้องน้ำก็จะสะอาดเหมือนใหม่โดยไม่ต้องพึ่งน้ำยาทำความสะอาดชนิดรุนแรง สบายมือสบายใจกันทั้งครอบครัว หรืออยากสนุกขึ้นก็ชวนสมาชิกในบ้านมาร่วมทำกิจกรรมทำความสะอาดนี้ด้วยก็ได้

แฟนเข้าห้องน้ำนาน แก้ปัญหายังไงดี

แฟนเข้าห้องน้ำนาน แก้ปัญหายังไงดี

หลายคนคงประสบปัญหา แฟนเข้าห้องน้ำนาน บางที 1 ชั่วโมงก็แล้ว 2 ชั่วโมงก็แล้ว แรกๆ ก็เป็นห่วง กลัวจะมีอุบัติเหตุ แต่พอนานเข้าเริ่มกลายเป็นปัญหา เพราะจัดการตัวเองไม่ถูกว่าจะต้องเข้าห้องน้ำก่อนหรือหลัง พังกว่านั้นคือไปทำงานสาย ซึ่งดีเทลการใช้ชีวิตเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้นี่เองที่ทำให้ชีวิตคู่ของใครหลายคนง่อนแง่นไปโดยไม่รู้ตัว

ก่อนที่จะปล่อยให้ชีวิตคู่พัง หรือตัดสินใจพังประตู เรามาลองหาวิธีจัดการกับปัญหาแฟนเข้าห้องน้ำนานกันเถอะ

สาเหตุส่วนใหญ่ที่แฟนเข้าห้องน้ำนานอาจเป็นเพราะว่าเขากำลัง ต้องการพื้นที่ปลอดภัย ไม่ว่าทางกายหรือทางใจ และห้องน้ำก็มีความเป็นส่วนตัวมากพอที่จะเป็นหลุมหลบภัยให้เขาได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง ถ้าลองสำรวจสาเหตุแล้วพบว่าเป็นเรื่องทางกายภาพ ก็อาจจะหามุมส่วนตัวให้เขาได้มีอิสระ แต่ถ้าเป็นพื้นที่ทางใจ เขากำลังอาจรู้สึกไม่ปลอดภัยบางอย่าง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องสื่อสารกันอีกที

จึงนำมาสู่ข้อ 2 คือ การลองสื่อสารดูว่าเขาเข้าไปทำอะไรในห้องน้ำ แต่อย่าเพิ่งไปจี้ว่าเป็นความผิดของเขานะ กลั้นใจนิดนึง ลองเริ่มต้นใหม่ด้วยการตั้งต้นประโยคด้วยคำว่า ‘ฉัน’ แล้วตามด้วยความรู้สึกที่แท้จริงของเรา เช่น “ฉันเป็นห่วงเธอนะ เห็นเธอเข้าห้องน้ำนานๆ ต้องการให้ช่วยอะไรไหม คุณหมอเขามีวิจัยนะเธอว่านั่งชักโครกนานๆ แล้วอาจเป็นริดสีดวง ฉันเป็นห่วง” อะไรก็ว่าไป แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเผื่อใจรับคำตอบเขาด้วยว่าเราอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาต้องลี้ภัยไปในห้องน้ำ ซึ่งคำตอบอาจมีได้ทั้งเป็นไลฟ์สไตล์ของเขา ไปจนถึงอยากเล่นเกม หรือดูยูทูบคนเดียวก็ได้

ข้อ 3 ถ้าเขายืนยันว่าเป็นไลฟ์สไตล์ที่อยากรื่นรมย์กับการเข้าห้องน้ำ ไม่ได้มีเรื่องผิดใจอะไร ให้ลองอธิบายผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเรา แต่อย่าลืมขึ้นต้นประโยคด้วย ‘ฉัน’ เหมือนเดิม เช่น “ฉันไม่รู้จะจัดการชีวิตยังไงดี” อย่างน้อยก็ดีกว่าการที่ไปโยนโครมแล้วบอกว่า “เธอเข้าห้องน้ำนาน ฉันเดือดร้อนแล้วเนี่ย!” แต่เหนืออื่นใด ลองดูน้ำเสียงของตัวเองและหาจังหวะเวลาเหมาะๆ ด้วยนะ อ้อ! คุยกันตอนอารมณ์ดีๆ ก็จะได้ผลมากว่าคุยกันตอนโกรธกันด้วย

ข้อ 4 ถ้าดูทรงว่าอีกฝ่ายเริ่มมองเห็นว่าเป็นปัญหาและอยากแก้ไข ลองตั้งข้อตกลงในการอยู่ร่วมกัน แต่ต้องเป็นข้อตกลงที่เห็นด้วยกันทั้งสองฝ่าย ถ้ามัดมือชกว่าจะออกกฎให้บ้านเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่เวิร์กแน่ๆ อาจทำให้อยากหนีไปอยู่ในห้องน้ำนานขึ้นด้วยซ้ำ

จะเห็นว่าทั้งหมดอยู่ที่การสื่อสารล้วนๆ แล้วก็ไม่มีวิธีไหนที่ถูกหรือผิด แต่อย่าเพิ่งเผด็จการด้วยการยึดมือถือ แค่ลองปรับๆ แก้ๆ กันไป ถ้ายังเห็นว่าอีกฝ่ายรู้สึกไม่สบายใจยังไงก็แสดงว่ายังรักกัน และพร้อมจะปรับนั่นนิดนี่หน่อยเพื่อคนที่รักเรา จริงไหม?