dealer-sahapaiboon-chiangrai

บุณณดา เลาพงษ์สิต กรรมการผู้จัดการ หจก.สหไพบูลย์ โฮมเซ็นเตอร์ หนึ่งในคู่ค้าสำคัญของชาญไพบูลย์

บุณณดา เลาพงษ์สิต กรรมการผู้จัดการ สหไพบูลย์ โฮมเซ็นเตอร์ หนึ่งในคู่ค้าสำคัญของชาญไพบูลย์

 

เราเดินทางขึ้นเหนือมาที่จังหวัดเชียงราย เพื่อพูดคุยกับ ‘คุณจ๋า-บุณณดา เลาพงษ์สิต’ แห่ง สหไพบูลย์ โฮมเซ็นเตอร์ หนึ่งในพันธมิตรสำคัญของชาญไพบูลย์ ถึงเรื่องราวการทำธุรกิจ และการปรับตัวในโลกที่หมุนเร็วขึ้นทุกที

ก้าวแรกของสหไพบูลย์
“สหไพบูลย์ โฮมเซ็นเตอร์ เริ่มต้นกิจการเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้วค่ะ (คุณจ๋าย้อนเล่าถึงธุรกิจของครอบครัว) ถ้าย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น อากงของจ๋าเปิดร้านขายของชำเล็กๆ ในห้องแถว 1 คูหา ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะต่อยอดมาขายวัสดุก่อสร้าง เริ่มจากสินค้าที่เกี่ยวกับโครงสร้าง เช่น เหล็ก ปูน ไม้ ฯลฯ โดยตั้งชื่อร้านว่า สหไพบูลย์ อยู่บริเวณสี่แยกหอนาฬิกาเมืองเดิม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงรายค่ะ

“หลังจากธุรกิจเติบโตขึ้น เราย้ายร้านมาที่ถนนประสพสุข บนที่ดินประมาณ 5 ไร่ และเริ่มจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้าน อาทิ กระเบื้องปูพื้น กระเบื้องติดผนัง และสินค้าสุขภัณฑ์ต่างๆ เช่น ก๊อกน้ำ สายชำระ ฝักบัว ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่เราได้เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของชาญไพบูลย์ด้วย”


The Second Generation
“จ๋าเข้ามาช่วยธุรกิจครอบครัวเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว ตอนนั้นคุณพ่ออยากให้ช่วยงานกลุ่มสินค้าตกแต่งและสุขภัณฑ์ เราจึงขยายแผนกนี้ให้มีของที่หลากหลายขึ้น โดยเปิดโชว์รูมสุขภัณฑ์ในพื้นที่ของร้าน

“จ๋าเข้ามาช่วยธุรกิจครอบครัวเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว ตอนนั้นคุณพ่ออยากให้ช่วยงานกลุ่มสินค้าตกแต่งและสุขภัณฑ์ เราจึงขยายแผนกนี้ให้มีของที่หลากหลายขึ้น โดยเปิดโชว์รูมสุขภัณฑ์ในพื้นที่ของร้าน

“ต้องบอกว่าคุณพ่อคุณแม่เป็นคนที่ทันสมัยมาก ในปี 2537 ท่านอยากเปลี่ยนรูปแบบร้าน จากที่เจ้าของนั่งขายสินค้าเอง มาเป็นโมเดิร์นเทรด จ๋าจึงเดินทางมาที่กรุงเทพฯ เพื่อศึกษาว่าร้านชื่อดังที่จำหน่ายสินค้าในกลุ่มเดียวกับเราทำงานกันอย่างไร จากนั้นจึงนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่ต่างจังหวัด

“หลังจากเปิดโชว์รูมสุขภัณฑ์ได้ 3 ปี เราจึงปรับปรุงร้านส่วนที่เหลือ ตั้งแต่การจัดเรียงสินค้าบนชั้นให้ลูกค้าเดินเลือกได้เอง มีระบบบาร์โค้ด ชำระผ่านแคชเชียร์ รวมถึงตั้งแผนกดูแลลูกค้าหลังการขาย นอกจากนี้ยังเปิดสาขา 2 ที่ถนนซูเปอร์ไฮเวย์ โดยทั้งสองสาขาจะมีการปรับปรุงทุก 5 ปี เพื่อให้ร้านมีความทันสมัยตลอดเวลา”

 

Offline to Online
“ถ้าพูดถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากในการทำธุรกิจ สำหรับจ๋ามี 2 เหตุการณ์ใหญ่ๆ ครั้งแรกคือ ช่วงรอยต่อที่เข้ามาดูแลกิจการต่อจากคุณพ่อคุณแม่ เนื่องจากพนักงานคุ้นชินกับการบริหารจัดการแบบเดิม แต่เราเข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบให้ทันสมัยขึ้น มีการใช้คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีเข้ามาช่วยสนับสนุนการขาย ถือเป็นช่วงที่ทุกคนต้องปรับตัวไปพร้อมๆ กัน

“ส่วนเหตุการณ์ที่ถือว่ายากและท้าทายที่สุดก็คือปัจจุบันนี้ค่ะ เพราะเราไม่ได้แข่งขันกับแค่ร้านค้าในพื้นที่อีกแล้ว แต่แข่งกับร้านที่อยู่ในออนไลน์ด้วย ทุกวันนี้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าจากที่ไหนก็ได้ โดยเฉพาะเมื่อเกิดโควิด-19 ที่ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนมาซื้อของทางออนไลน์มากขึ้น เราจึงเร่งพัฒนาช่องทางนี้ให้ตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละแพลตฟอร์ม ทั้ง Facebook, LINE รวมทั้งพัฒนาระบบเว็บไซต์ เพื่อขายสินค้าและบริการลูกค้าให้ได้รับความสะดวกสบายสูงสุด”


สหไพบูลย์ x ชาญไพบูลย์
“ถ้าบอกถึงความประทับใจเกี่ยวกับชาญไพบูลย์ คงต้องย้อนกลับไปรุ่นคุณพ่อคุณแม่เลยค่ะ (ยิ้ม) เราค้าขายกันมานานมากๆ จ๋ายังจำได้ว่าตอนเรียนจบกลับจากเมืองนอก พอได้เห็นสินค้าของชาญไพบูลย์ก็รู้สึกประทับใจ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและทันสมัย หลายแบรนด์นำเข้าจากประเทศอิตาลี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้บริหารต้องมีวิสัยทัศน์ว่า สินค้านี้สามารถทำตลาดในประเทศไทยได้

“จนถึงวันที่จ๋าเข้ามาบริหารธุรกิจต่อ เราก็ยังเป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าทุกแบรนด์ของชาญไพบูลย์ มีทั้งก๊อกน้ำ สายฉีดชำระ ฝักบัว ฯลฯ ต้องบอกว่าทีมงานชายไพบูลย์ดูแลลูกค้าดีมาก เวลามีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ก็จะส่งพนักงานมาเทรนนิ่งให้กับเรา ทั้งคุณสมบัติ วิธีดูแลรักษา การใช้งาน เพื่อที่เราจะแนะนำลูกค้าได้อย่างดีที่สุด”


ปรับตัวสู่โลกอนาคต
“ทุกวันนี้เราไม่สามารถวางแผนธุรกิจล่วงหน้า 5-10 ปีได้เหมือนเดิมอีกแล้วค่ะ นอกจากโลกออนไลน์ที่เร่งให้ทุกอย่างเร็วขึ้น ยังมีปัจจัยที่คาดไม่ได้อย่าง โควิด-19 หรือสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่ทำให้สินค้าก่อสร้างบางประเภทมีราคาแพงขึ้น ซึ่งส่งผลให้คนชะลอการก่อสร้าง เพราะฉะนั้นเราจึงต้องพร้อมปรับแผนตลอดเวลา และโฟกัสที่ปัจจุบันว่า ทำอย่างไรให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด

“ไม่เพียงแต่ออนไลน์เท่านั้นนะคะ ในส่วนออฟไลน์เราก็พยายามปรับปรุงร้านให้ทันสมัย ถ้าเป็นยุคก่อน อาจทำร้านให้ใหญ่โตเหมือนห้างสรรพสินค้า แต่ในวันนี้ที่คนซื้อของออนไลน์มากขึ้น การทำร้านที่ใหญ่เกินไปจะเสียทั้งค่าแรง และการบริหารจัดการต่างๆ 

“ดังนั้นแผนของเราคือ ทำให้ร้านเล็กมีขนาดลงเหมือนร้านสะดวกซื้อ แต่มีความเฟรนด์ลี่ขึ้น มีเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้า และสำคัญที่สุดคือ ไม่ว่าช่องทางออนไลน์หรือออฟไลน์ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ หัวใจแห่งการบริการที่ต้องเต็มที่ในทุกๆ วันค่ะ”


สหไพบูลย์ เชียงราย
https://www.facebook.com/sahapaiboon/
เปิดทุกวัน เวลา 8.00-17.30 น.
โทร 064-563-9225

 


ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชาญไพบูลย์และสินค้าในเครือติดตามได้ที่
WEBSITE – www.charnpaiboon.com
FACEBOOK PAGE –  facebook.com/charnpaiboongroup
LINE OFFICIAL ACCOUNT – @Rasland
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2285-5795
dealer-dinowatsadu

ฐิติกัญญ์ โภคาพานิชย์ แห่ง ไดโน่วัสดุ จ.ขอนแก่น “ความฝัน และหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ จะพาเราไปได้ไกลแค่ไหน”

ฐิติกัญญ์ โภคาพานิชย์ แห่ง ไดโน่วัสดุ จ.ขอนแก่น “ความฝัน และหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ จะพาเราไปได้ไกลแค่ไหน”

 

หนึ่งในคนที่จะตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุดคือ ‘เจ๊พร-ฐิติกัญญ์ โภคาพานิชย์’ หัวเรือใหญ่แห่ง ไดโน่วัสดุ ที่เริ่มต้นธุรกิจจากตัวเลขติดลบ ก่อนจะพลิกทุกวิกฤตให้กลายเป็นโอกาสได้อย่างงดงาม

 

ล้มแล้วลุก ไม่มีคำว่า “ไม่ได้”

“ธุรกิจแรกของเจ๊พรคือเฟอร์นิเจอร์ไม้สัก ทำประตู หน้าต่าง ตู้ และเตียง ขายที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เป็นหนี้เกือบ 10 ล้านบาท” เจ๊พร หรือ คุณฐิติกัญญ์ แห่งไดโน่วัสดุก่อสร้าง เล่าถึงก้าวแรกที่ล้มลุกคลุกคลาน ก่อนที่เธอจะตัดสินใจกลับไปหาโอกาสที่บ้านเกิด อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น

 

“ตอนนั้นนึกถึงบ้าน จึงขนของขึ้นรถไปขายที่นั่น แต่ก็ขายไม่ได้อีก ไปติดต่อร้านวัสดุก่อสร้างกี่แห่ง ก็ไม่มีใครซื้อ ตอนนั้นจึงตัดสินใจว่าถ้าเห็นที่ไหนกำลังก่อสร้างบ้าน จะจอดรถถามว่าสนใจซื้อเฟอร์นิเจอร์ไม้สักไหม และนั่นคือจุดเปลี่ยน เพราะในเวลานั้น คนมีฐานะนิยมซื้อประตูหน้าต่างไม้สัก เราจึงเริ่มขายได้ ตั้งแต่บ้านละ 20,000–100,000 บาท ทีนี้โชคเป็นของเราแล้ว ถามใครก็ซื้อ


“พอขายดีขึ้น ลูกค้าก็ถามต่อว่ามีปูนขายไหม เจ๊พรบอกว่ามี เดี๋ยวหาให้ ทั้งที่จริงๆ ไม่มีความรู้เลย ใช้วิธีถามร้านวัสดุก่อสร้างในพื้นที่ พอเสนอราคาลูกค้าได้ก็ซื้อของมาขาย เราโชคดีที่สมัยก่อนไม่มีคู่แข่ง เสนอเท่าไรก็ขายได้ ถ้าลูกค้าฝากซื้อปูน 5 กระสอบ เราก็ซื้อ 20 กระสอบมาตุนไว้ ไม่ว่าลูกค้าจะถามถึงสินค้าอะไร เราก็พร้อมจัดการให้หมด ไม่เคยปฏิเสธ ลูกค้าจึงประทับใจ และช่วยบอกต่อ


“พอเริ่มเห็นลู่ทาง เราจึงเปิดร้านวัสดุก่อสร้างเล็กๆ ในตึกแถวหน้าตลาดสดเทศบาลวังชัย ที่ อำเภอน้ำพอง ใช้ชื่อร้านว่า พรรุ่งเรืองทรัพย์วัสดุก่อสร้าง ขายไม้ ปูนซีเมนต์ เหล็ก หิน ทราย รวมถึงสินค้ากลุ่มสุขภัณฑ์” 

 

จากร้านห้องแถว สู่ไดโนเสาร์แห่งเมืองน้ำพอง

จากร้านเล็กๆ เจ๊พรค่อยๆ ขยับขยายกิจการและซื้อตึกแถวใกล้ๆ เขตชุมชน 4 คูหา บนพื้นที่กว่า 1 ไร่ จากนั้นต่อยอดทำธุรกิจหลังคาเหล็กเมทัลชีท ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง แต่ขณะเดียวกัน ร้านขายวัสดุก่อสร้างแบรนด์ใหญ่ๆ ก็เริ่มเข้ามาเปิดกิจการที่ขอนแก่น เจ๊พรจึงคิดว่าหากทำทุกอย่างเหมือนเดิม ก็อาจเจอกับปัญหาใหญ่ได้


“ตอนนั้นคิดว่าเราต้องเปลี่ยนแล้ว จึงซื้อที่ดิน 10 ไร่เพื่อทำร้าน ซึ่งก็ขายดีเหมือนเดิม จนเป็นแรงจูงใจว่าถ้าอย่างนั้นก็เปลี่ยนร้านให้ครบวงจรแบบโมเดิร์นเทรดเลยดีกว่า จึงตัดสินใจกู้เงินธนาคาร ซื้อที่ดินที่อยู่ติดกัน รวมกับของเดิมเป็น 49 ไร่ ยอมรับว่าตอนนั้นยังกล้าๆ กลัวๆ แต่อีกใจก็เชื่อว่าเราทำได้ 


“ตอนจดทะเบียน เจ๊คุยกับครอบครัวว่าเราเห็นหลายธุรกิจที่ใช้ชื่อเจ้าของเป็นชื่อร้าน พอหมดรุ่นพ่อแม่ ร้านจะซบเซา เรากลัวปัญหานี้ จึงคิดชื่อใหม่ที่เฮงๆ พอหันไปดูหลายแบรนด์ เขาใช้ช้างก็เติบโต เสือก็ขายดี เลยอยากใช้ชื่อสัตว์ที่คลุมตัวเราไว้ พอคิดต่อว่าจังหวัดขอนแก่นมีไดโนเสาร์เป็นสัญลักษณ์ ถ้าอย่างนั้นเอาตัวนี้แล้วกัน ไดโน่วัสดุก่อสร้าง (ยิ้ม) สามีเจ๊พอมีความรู้เรื่องดูดวงตัวเลขด้วย พอบวกกันก็ลงตัวพอดี จึงเป็นที่มาของชื่อร้านใหม่ที่เปลี่ยนเมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา”

 

ไดโน่วัสดุ x ชาญไพบูลย์

“ตั้งแต่เริ่มค้าขาย สิ่งที่เจ๊พรให้ความสำคัญมากๆ คือการศึกษาลูกค้าว่า มีความสนใจสินค้าแบบไหน มีกำลังพอจะซื้อในราคาใด อย่างกลุ่มลูกค้าของเราคือชาวบ้าน เพราะฉะนั้นผลิตภัณฑ์ที่เลือกมาขายจะดูเรื่องคุณภาพ ดีไซน์ และราคาที่เข้าถึงได้ อย่างสุขภัณฑ์ Rasland ของชาญไพบูลย์ที่ตอบโจทย์ทั้งหมด โดยเฉพาะดีไซน์ที่ทันสมัย และสำคัญที่สุดคือ การดูแลหลังการขายที่ดีมาก อย่างครั้งหนึ่งที่สินค้ามีปัญหา ผู้บริหารก็มาคุยถึงที่ เราชอบบริการลูกค้าอย่างไร เวลาเป็นลูกค้าก็อยากได้รับการดูแลแบบนี้ รู้สึกประทับใจมากๆ”

 

ถอดบทเรียน ทฤษฎีเดินหน้าลุย 

“พอมองย้อนกลับไปก็พูดได้ว่าภูมิใจในตัวเองนะ เราเกิดจากครอบครัวธรรมดา ไม่ได้ร่ำรวย แต่ใจที่ไม่ยอมแพ้ และความสามัคคีของทุกคนในครอบครัว ทำให้มีวันนี้ได้ และคิดว่าคนอื่นก็ทำได้เหมือนกัน 


“นิสัยของเจ๊คือ ท้อได้แต่ไม่ถอย วันที่ธุรกิจไม้สักไม่ประสบความสำเร็จ เราไม่เคยยอมแพ้เลยนะ คิดอย่างเดียวว่าทางนี้ไม่ได้ก็ไปอีกทาง และเมื่อเห็นโอกาสก็กล้าที่จะคว้าเอาไว้ให้ได้”

 

บริษัท ไดโน่ วัสดุก่อสร้าง จำกัด
https://www.facebook.com/DINOWATSADU/

เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 17.30 น.
โทร. 043-431-777

 


สอบถามเรื่องการติดตั้งและใช้งาน สามารถเพิ่ม ชาญไพบูลย์ เป็นเพื่อนทาง LINE ได้ที่ @Rasland หรือสอบถามรายละเอียดการซื้อสินค้าได้ที่ LINE @Charnpaiboon.sales Telephone number 02-285-5795

ชาญไพบูลย์ ร้านค้าออนไลน์
Shopee: https://bit.ly/3H64bTv
Lazada: https://bit.ly/3LJtpup

กดติดตาม Facebook: ชาญไพบูลย์ l CharnPaiboon และทำความรู้จักแบรนด์ชาญไพบูลย์เพิ่มเติม กับหลักไมล์สำคัญในวาระครบรอบ 50 ปีได้ที่ www.charnpaiboon.com

dealer-chokwattanahomecenter

ณัฐภัทร นาวีโชควัฒนา กรรมการผู้จัดการ โชควัฒนา โฮมเซ็นเตอร์ ‘บ้าน’ คือศูนย์รวมความสุขของคนในครอบครัว

ณัฐภัทร นาวีโชควัฒนา กรรมการผู้จัดการ โชควัฒนา โฮมเซ็นเตอร์
‘บ้าน’ คือศูนย์รวมความสุขของคนในครอบครัว

 

จากร้านค้าเล็กๆ ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2537 วันนี้ โชควัฒนา โฮมเซ็นเตอร์ คือร้านขายวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านที่ครบวงจรที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดสระแก้ว พร้อมกับจุดมุ่งหมายในการสร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนที่ฝันอยากมีบ้าน

‘ไปต่อ’ หรือ ‘พอแค่นี้’
“ในปี 2537 คุณพ่อคุณแม่ของผมเปิดร้านขายวัสดุก่อสร้างเล็กๆ ขนาด 3 คูหาชื่อ โชควัฒนาวัสดุก่อสร้าง ที่อำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว” คุณอิฐ ณัฐภัทร เล่าถึงจุดเริ่มต้นของร้าน ซึ่งในวันนั้นขายสินค้าในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ก่อนจะค่อยๆ พัฒนาและปรับปรุงร้านเรื่อยมา

“ความทรงจำในวัยเด็กของผมคือเราเป็นร้านขนาดเล็กที่มีโกดังขนาดใหญ่ เพราะหลังจากเปิดกิจการได้ 5-6 ปี เราก็เริ่มขายส่งจนกลายเป็นพอร์ตหลักของธุรกิจ ก่อนที่จะขยับขยายมาขายสินค้าฮาร์ดแวร์และตกแต่งบ้าน ซึ่งเป็นช่วงที่เราเริ่มทำธุรกิจกับชาญไพบูลย์ในปี 2556 ครับ

“กระทั่งปี 2558 คุณพ่อวางแผนปรับปรุงร้าน โดยได้ไปเยี่ยมชมร้านของเพื่อนท่าน ซึ่งปรับเป็นระบบโมเดิร์นเทรด แม้จะต้องใช้เงินลงทุนเยอะ แต่คุณพ่อเชื่อว่าเทรนด์จะมุ่งตรงไปทางนั้น

“วันหนึ่งคุณพ่อถามผมว่าอยากทำธุรกิจต่อจากท่านไหม ถ้าไม่ก็จะไม่ลงทุนขยายกิจการเพิ่ม ช่วงเวลานั้นผมยังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมปลาย และก็ยังลังเล ถึงแม้อยากเป็นนักธุรกิจตั้งแต่เด็ก แต่ร้านขายส่งวัสดุก่อสร้างเป็นธุรกิจที่แข่งขันสูงและเติบโตในอนาคตได้ค่อนข้างยาก กระทั่งได้ไปดูงานกับคุณพ่อที่ร้านของเพื่อนท่าน เราได้เห็นระบบการจัดการแบบโมเดิร์นเทรด มีการใช้เทคโนโลยีและระบบบริหารจัดการเข้ามาช่วย ทำให้เราเชื่อว่าธุรกิจนี้มีโอกาสเติบโตในอนาคต จึงตัดสินใจมารับช่วงต่อ และเมื่อตัดสินใจแล้วก็จะทำให้ดีที่สุดครับ”

ช่วงเวลาแห่งการก้าวกระโดด
“หลังเรียนจบมหาวิทยาลัย ผมได้เข้ามาช่วยธุรกิจครอบครัว เริ่มจากการเรียนรู้งานในแผนกต่างๆ จนมาถึงวันนี้ที่ได้รับความเชื่อใจจากท่านให้บริหารเต็มตัวแล้วครับ

“นับตั้งแต่เปลี่ยนมาเป็นระบบโมเดิร์นเทรด ธุรกิจของเรามีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ปัจจัยสำคัญมาจากแผนการตลาดและการบริการที่ประทับใจ รวมถึงเราเป็นร้านแรกในกลุ่มธุรกิจนี้ของจังหวัดสระแก้วที่ปรับรูปแบบมาเป็นโมเดิร์นเทรดครับ

“จากร้านค้าเล็กๆ เมื่อเกือบ 30 ปีก่อน ในวันนี้มีพื้นที่ให้บริการประมาณ 4,500 ตารางเมตร และกำลังเพิ่มอีก 2,000 ตารางเมตร รวมทั้งลงทุนเพิ่มในธุรกิจผลิตภัณฑ์คอนกรีต เหล็ก และหลังคาเมทัลชีท เรียกได้ว่าเรื่องบ้านมาที่เดียวครบ ตอบโจทย์คนสร้างบ้านแน่นอนครับ”

โชควัฒนา โฮมเซ็นเตอร์ x ชาญไพบูลย์
คุณอิฐย้อนเล่าถึงวันแรกที่ได้ร่วมงานกับชาญไพบูลย์ “ช่วงที่เรากำลังทำโชว์รูมใหม่ ถึงแม้ยังไม่เรียบร้อยดี แต่บริษัทชาญไพบูลย์ก็ส่งชั้นโชว์และสินค้ามาฝากขายที่ร้านเดิมของเราก่อนเพื่อให้ลูกค้าได้รู้จัก สินค้ารุ่นไหนขายได้ก็จะนำสินค้าชิ้นใหม่มาเติมให้ ถือเป็นความประทับใจแรก และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราได้ทำธุรกิจร่วมกันจนถึงปัจจุบัน

“ชาญไพบูลย์มีการพัฒนารูปแบบสินค้าและการตลาดอยู่เสมอ ทำให้มีการเติบโตค่อนข้างดีครับ โดยเฉพาะทางบริษัทตัดสินใจเพิ่มพนักงานแนะนำสินค้า (PC หรือ Product Consultant) ให้กับทางเรา จาก 1 เป็น 2 ท่าน ทำให้สินค้าของชาญไพบูลย์ทำยอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดดเลยครับ

“ก่อนเปิดโฮมเซ็นเตอร์ เราเป็นตัวแทนให้บริษัทสุขภัณฑ์หลากหลายแบรนด์ แต่พอขึ้นโชว์รูมใหม่ เราตัดสินใจเลือกชาญไพบูลย์เป็นแบรนด์หลัก เนื่องจากเป็นบริษัทที่สนับสนุนคู่ค้าได้เป็นอย่างดี ในขณะที่สินค้าก็มีคุณภาพ เหมาะสมกับตลาด ทำให้ธุรกิจของเราเติบโตไปด้วยกัน”

ภาพถ่ายของบ้านและครอบครัว
“เป้าหมายของเราคือการเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านที่มีสินค้าที่ดี ครบครัน และตอบโจทย์ลูกค้าที่สุด โดยเรามีแผนขยายสาขาไปยังพื้นใกล้เคียง และทำการตลาดออนไลน์ในหลายช่องทาง เพื่อให้อยู่ใกล้ลูกค้ามากขึ้น

“ผมคิดว่า ‘บ้าน’ คือศูนย์รวมความสุขของคนในครอบครัว เวลาเราเห็นลูกค้าสร้างบ้านเสร็จและถ่ายรูปกันร่วมกันในครอบครัว เราจะมีความสุขมาก ผมย้ำกับทีมงานเสมอว่าถ้าเจอสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพให้รีบคัดออก เราอยากขายแต่ของดีในราคายุติธรรม ไม่ว่าลูกค้ามีงบเท่าไร เราก็อยากช่วยให้เงินจำนวนนั้นเปลี่ยนเป็นบ้านที่ดีที่สุดของเขาให้ได้ นี่คือเป้าหมายของเราครับ”

โชควัฒนา โฮมเซ็นเตอร์
https://www.facebook.com/chokwattanahomecenter/
เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น.

โทร. 037-247-400

 


สอบถามเรื่องการติดตั้งและใช้งาน สามารถเพิ่ม ชาญไพบูลย์ เป็นเพื่อนทาง LINE ได้ที่ @Rasland หรือสอบถามรายละเอียดการซื้อสินค้าได้ที่ LINE @Charnpaiboon.sales Telephone number 02-285-5795

ชาญไพบูลย์ ร้านค้าออนไลน์
Shopee: https://bit.ly/3H64bTv
Lazada: https://bit.ly/3LJtpup

กดติดตาม Facebook: ชาญไพบูลย์ l CharnPaiboon และทำความรู้จักแบรนด์ชาญไพบูลย์เพิ่มเติม กับหลักไมล์สำคัญในวาระครบรอบ 50 ปีได้ที่ www.charnpaiboon.com

bshomeplus

“กล้าเปลี่ยนแปลง พร้อมที่จะทุ่มเท” คือหนึ่งในหัวใจสำคัญของ บีเอส โฮมพลัส

“กล้าเปลี่ยนแปลง พร้อมที่จะทุ่มเท” คือหนึ่งในหัวใจสำคัญของ บีเอส โฮมพลัส

 

“กล้าเปลี่ยนแปลง พร้อมที่จะทุ่มเท” คือหนึ่งในหัวใจสำคัญของ บีเอส โฮมพลัส ร้านค้าวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้านที่ค่อยๆ เติบโตอย่างแข็งแรง ในอำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด ที่บริหารงานโดย
จุฑารัตน์ คำชาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บำรุงทรัพย์โฮมพลัส จำกัด

 

ก้าวแรกถึงการเปลี่ยนแปลง

คุณแก้ม-จุฑารัตน์ คำชาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บำรุงทรัพย์โฮมพลัส จำกัด ย้อนเล่าถึงร้านขายวัสดุก่อสร้างของครอบครัวที่เปิดกิจการตั้งแต่ปี 2536 ในชื่อร้านบำรุงทรัพย์

“เราเป็นร้านค้าขนาดเล็กๆ ในอำเภอหนองพอก อยู่ห่างจากตัวเมืองร้อยเอ็ดประมาณ 80 กิโลเมตรค่ะ สมัยนั้นคุณพ่อคุณแม่เน้นขายสินค้าโครงสร้าง เช่น เสา เหล็ก ปูน มีสินค้าสุขภัณฑ์และอื่นๆ บ้าง กิจการก็เป็นไปด้วยดีมาตลอด พอแก้มเรียนจบมหาวิทยาลัยในปี 2555 ก็มาช่วยงานที่บ้าน ซึ่งในวันนั้นยังบริหารงานในระบบเถ้าแก่ ที่เจ้าของต้องทำเองทุกอย่าง ทั้งนั่งขายของหน้าร้าน อธิบายสินค้า เก็บเงิน ถึงแม้จะมีพนักงานช่วย แต่พอจบวันก็หมดพลังทุกที (ยิ้ม)

“หลังจากที่แก้มมาช่วยงานครอบครัวได้พักหนึ่งก็สังเกตว่าพฤติกรรมของลูกค้าเริ่มเปลี่ยนไป โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่อยากมีสินค้าให้เลือกมากขึ้น และชอบร้านที่มีของครบจบในที่เดียว ผลที่ตามมาคือยอดขายของร้านตกลงอย่างชัดเจน เราเห็นปัญหาแล้วว่าร้านในรูปแบบเดิมอาจไม่ตอบโจทย์ของคนยุคนี้แล้ว

“พอดีว่าตอนนั้นครอบครัวพี่สาวของแก้มทำธุรกิจวัสดุก่อสร้างเหมือนกันคือ ร้านฟูลเฮ้าส์สโตร์ ที่อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด เขาปรับปรุงร้านให้เป็นระบบโมเดิร์นเทรดและประสบความสำเร็จมาก แก้มจึงคุยกับคุณพ่อว่าคงถึงเวลาที่ร้านบำรุงทรัพย์จะมีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน ตอนแรกที่บ้านก็ไม่มั่นใจนะคะ เพราะต้องใช้เงินลงทุนเยอะ แต่แก้มคิดว่าถ้ายังทำแบบเดิม ผลลัพธ์ก็จะเหมือนเดิม และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ บีเอส โฮมพลัส

 

การเปลี่ยนแปลงที่มาพร้อมกับความทุ่มเท

“ต้องบอกว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ง่ายเลย เพราะเรารื้อทุกอย่างทำใหม่ ตั้งแต่การรีโนเวทอาคารทั้งภายในและภายนอก จากเดิมที่เคยใช้โกดังไม้ในการเก็บของก็ทุบแล้วทำคลังสินค้าใหม่ นำระบบการจัดการแบบโมเดิร์นเทรดเข้ามาช่วยบริหารจัดการ จากตอนเริ่มมีแค่พื้นที่หน้าขายโชว์สินค้าแค่ 150 ตารางเมตร ก็ขยายพื้นที่ใช้สอยเพิ่มเป็น 2,000 ตารางเมตร ก่อนที่ไม่นานนี้จะขยายเพิ่มเป็น 3,000 ตารางเมตร

“จบจากเรื่องอาคารสถานที่ก็ต่อด้วยการวางแผนโชว์รูม แก้มไปศึกษาตามร้านวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่หลายแห่งว่าเขาจัดสินค้าอย่างไร จัดโปรโมชั่นแบบไหน จากนั้นก็นำมาปรับใช้ โดยแก้มคุมงานเองทุกขั้นตอน กระทั่งจัดวางสินค้าก็ช่วยกันกับพนักงาน เพื่อให้พื้นที่ทุกจุดเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

“นอกจากนี้เรารับพนักงานเพิ่มขึ้นเป็น 80 คน ในส่วนคนเก่าก็อธิบายว่าเราเปลี่ยนรูปแบบเป็นบริษัทแล้วนะ จะทำงานแบบเดิมไม่ได้ โดยให้แต่ละคนได้อยู่ในตำแหน่งที่ถนัด ซึ่งทุกคนก็พร้อมที่จะสู้ไปด้วยกันค่ะ”

 

บีเอส โฮมพลัส x ชาญไพบูลย์

“บีเอสโฮมพลัสเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 ธันวาคม 2563 ก่อนหน้านั้นเราได้ทดลองขายเพื่อเช็กระบบและการจัดการทั้งหมด ในช่วงแรกๆ ลูกค้าเก่าบางคนไม่กล้าเข้ามาในร้านนะคะ บอกว่าทำไมร้านใหญ่จัง บางคนคิดว่าสินค้าคงแพงขึ้น ซึ่งเราก็ค่อยๆ สื่อสารว่าคอนเซปต์ของเราคือร้านที่อยู่ในใจคนท้องถิ่น มีสินค้าคุณภาพให้เลือกในหลายราคา พอวันเวลาผ่านไป ลูกค้าก็บอกกันปากต่อปากว่าของร้านนี้คุณภาพดี ไม่แพง บริการหลังการขายก็ดีมาก ทำให้มีลูกค้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (ยิ้ม)


“สำหรับยอดขายก็ต้องบอกว่ารู้สึกตั้งแต่วันแรกว่ามาถูกทาง เพราะได้รับฟีดแบ็กที่ดีจากลูกค้าหลายช่วงวัยค่ะ แต่สิ่งสำคัญคือเราจะหยุดพัฒนาไม่ได้ เพราะเทรนด์ก็มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา


“หัวใจในการทำธุรกิจของเราคือมีสินค้าที่ครบถ้วน ทั้งวัสดุก่อสร้าง สินค้าตกแต่งบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ รวมถึงสุขภัณฑ์ ซึ่งในยุคแรกที่เรามีของให้ลูกค้าเลือกไม่กี่รุ่น แต่ในวันนี้มีครบทุกแบบและหลายราคาให้เลือก เช่น ผลิตภัณฑ์ของ ชาญไพบูลย์ ทั้งในส่วนของแบรนด์ Rasland กับ Ben ที่ได้รับฟีดแบ็กดีมากๆ เพราะสินค้าของชาญไพบูลย์มีคุณภาพสูง ราคาไม่แพง และมีรุ่นให้เลือกเยอะ ที่สำคัญคือบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม ทำให้ลูกค้าหลายคนกลับมาซื้อสินค้าที่ร้านอยู่เสมอค่ะ (ยิ้ม)” 

 

รวมพลังทีมเวิร์ก

“นอกจากการขายหน้าร้าน เราเน้นทำสื่อออนไลน์ในหลากหลายช่องทาง เช่น Facebook, LINE และ TikTok ถ้าลูกค้าพิมพ์ถามเข้ามาไม่ว่าช่องทางใด เราจะรีบตอบให้เร็วที่สุด เนื่องจากทุกวันนี้ลูกค้ามีทางเลือกเยอะ ถ้าร้านอื่นให้บริการได้เร็วกว่า เขาก็อาจจะซื้อสินค้ากับร้านนั้นได้ทันที


“แก้มเปิดโอกาสให้พนักงานเสนอไอเดียในการทำคอนเทนต์ด้วยนะคะ เช่น เราให้โจทย์ไปว่าอยากขายของใน TikTok น้องๆ ก็ช่วยกันคิดไอเดียในการถ่ายวิดีโอ สักพักก็ส่งคลิปเต้นโปรโมตสินค้ามาให้ดู เราก็บอกว่าลุยเลย เพราะถ้าเขารู้สึกสนุก ก็เหมือนเราเป็นเจ้าของงานชิ้นนั้นด้วยกัน (ยิ้ม)

 

บีเอสโฮมพลัส 

https://www.facebook.com/bshomeplus/

เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 17.30 .

โทร. 043-579-188 

 


สอบถามเรื่องการติดตั้งและใช้งาน สามารถเพิ่ม ชาญไพบูลย์ เป็นเพื่อนทาง LINE ได้ที่ @Rasland หรือสอบถามรายละเอียดการซื้อสินค้าได้ที่ LINE @Charnpaiboon.sales Telephone number 02-285-5795

ชาญไพบูลย์ ร้านค้าออนไลน์
Shopee: https://bit.ly/3H64bTv
Lazada: https://bit.ly/3LJtpup

กดติดตาม Facebook: ชาญไพบูลย์ l CharnPaiboon และทำความรู้จักแบรนด์ชาญไพบูลย์เพิ่มเติม กับหลักไมล์สำคัญในวาระครบรอบ 50 ปีได้ที่ www.charnpaiboon.com

dealer-king-watsadu

นพวิทย์ สุระศรีพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ คิงส์วัสดุ โฮมเซ็นเตอร์ หัวใจของการทำธุรกิจคือการวางแผนให้รอบคอบ

นพวิทย์ สุระศรีพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ คิงส์วัสดุ โฮมเซ็นเตอร์ หัวใจของการทำธุรกิจคือการวางแผนให้รอบคอบ

 

คิงส์วัสดุ โฮมเซ็นเตอร์ แกรนด์โอเพนนิ่งในเดือนมกราคม 2560 หากแต่จุดเริ่มต้นของการเดินทางต้องหมุนเข็มนาฬิกาย้อนกลับไปหลายสิบปีก่อน จากร้านค้าวัสดุก่อสร้างเล็กๆ ในจังหวัดศรีสะเกษ ที่ตัดสินใจเดิมพันครั้งใหญ่ด้วยการขยายธุรกิจให้มีสินค้าที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า

 

ก้าวเดินแห่งความท้าทาย

“เราเริ่มต้นจากการเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้างเล็กๆ ของคุณพ่อคุณแม่ครับ ในวันนั้นเราซื้อของต่อจากร้านค้าในจังหวัดอุบลราชธานีมาขาย เหมือนเป็นฮับหนึ่งของอุบลฯ ก็ว่าได้” คุณเอ นพวิทย์ เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์ ก่อนที่เขาจะเข้ามาต่อยอดธุรกิจของครอบครัว

“ผมเรียนจบปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และเรียนต่อปริญญาโทสาขาเดียวกันที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แต่ตอนนั้นคิดอยู่แล้วว่าวันหนึ่งต้องกลับมาช่วยธุรกิจที่บ้าน จึงเรียนต่อโทด้านบริหารอีกใบที่นิด้า ระหว่างนั้นผมก็ทำงานประจำที่อื่นด้วย เรียกว่าหาประสบการณ์ข้างนอกอยู่เป็น 10 ปี จึงกลับมาช่วยธุรกิจของครอบครัว

“ผมวางแผนตั้งแต่แรกว่าจะพัฒนาร้านให้เป็นแบบโมเดิร์นเทรด เนื่องจากตอนนั้นที่ศรีสะเกษยังไม่มีร้านวัสดุก่อสร้างที่เป็นรูปแบบสมัยใหม่มากนัก ซึ่งต้องบอกว่าการกระโดดมาทำร้านขนาดใหญ่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเราไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ ช่วงแรกจึงต้องลองผิดลองถูก ค่อยๆ เรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อยๆ”

 

การเดิมพันครั้งใหญ่ + กลยุทธ์การตลาด

“ในวันแรกของโปรเจ็กต์คิงส์วัสดุ ผมกับครอบครัวตัดสินใจนำบ้าน ที่ดิน และทุกอย่างที่มีไปยื่นกู้เงินจากธนาคาร ทองคำที่ซื้อเก็บไว้ก็ขายเพื่อนำเงินมาลงทุน ถือเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ พ่อแม่ก็เป็นห่วงว่าจะไปรอดไหม แต่ผมเชื่อว่าธุรกิจนี้ยังมีโอกาสอีกมาก ถึงแม้จะต้องฝ่าฟันปัญหานับไม่ถ้วน แต่ที่สุดแล้วเราก็ก้าวข้ามอุปสรรคมาได้ และทยอยคืนเงินให้กับธนาคารจนครบหมดแล้วครับ

“สำหรับผม หนึ่งในเรื่องท้าทายที่สุดคือการวางแผนการตลาดให้ลูกค้าจำเรา ซึ่งเป็นแบรนด์น้องใหม่ให้ได้ เนื่องจากในขณะนั้นมีผู้ประกอบการจากจังหวัดใกล้เคียงเข้ามาทำธุรกิจในศรีสะเกษด้วย ผมจึงทำกลยุทธ์ทั้งออฟไลน์และออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ทั้งส่งทีมงานไปออกตลาดในแต่ละอำเภอ เพื่อแนะนำตัวเองกับคู่ค้า ผู้รับเหมา รวมถึงเจ้าของบ้าน มีทั้งแจกใบปลิว จัดโปรโมชั่นประจำเดือนให้ลูกค้าได้สะสมแต้มเพื่อนำมาเป็นส่วนลด รวมถึงจัดงานแกรนด์เซลส์ประจำปี มีดารานักร้องมาให้ความบันเทิง และตอกย้ำให้เขาจำแบรนด์เราให้ได้”

 

คิงส์วัสดุ โฮมเซ็นเตอร์ x ชาญไพบูลย์

“ในวันแรก คิงส์วัสดุมีพื้นที่ขายประมาณ 5,000 ตารางเมตร ในตอนนั้นสินค้าอาจยังไม่ครบทุกความต้องการของลูกค้า แต่ก็เราก็ค่อยๆ เติมสินค้าใหม่เข้าไปเรื่อยๆ ทั้งวัสดุก่อสร้าง ซึ่งในเครือของเรามี คิงส์คอนกรีต ผลิตคอนกรีตสำเร็จรูปตั้งแต่ฐานราก เสาเข็ม เสารั้ว จนถึงหลังคาเมทัลชีท รวมถึงสินค้าตกแต่ง อาทิ สินค้าสุขภัณฑ์ สีทาบ้าน หลอดไฟ โคมไฟ เครื่องมือช่าง ฯลฯ

“โดยแบรนด์คู่ค้าที่เริ่มต้นกับคิงส์วัสดุตั้งแต่วันแรกก็คือ ชาญไพบูลย์ เป็นแบรนด์สุขภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย นอกจากนี้ทีมงานของชาญไพบูลย์มีการปรับปรุงบูธและพื้นที่ให้น่าสนใจขึ้นตลอดเวลา ทางผู้บริหารก็ให้การสนับสนุนที่ดี เวลาเราทำกิจกรรมหรือโปรโมชั่นพิเศษก็ให้ความร่วมมือด้วยดีเสมอมา เรียกว่าเราต่างเติบโตไปด้วยกันจริงๆ (ยิ้ม)

“นอกจากนั้น ผมคิดโจทย์เพิ่มว่าคนที่อยู่บ้านจะมีไลฟ์สไตล์อย่างไร แล้วเราช่วยเติมเต็มอะไรให้เขาได้บ้าง จึงเป็นที่มาของการขยายอาคารหลังใหม่ที่ชื่อ คิงส์เฟอร์นิเจอร์ เป็นพื้นที่ของแบรนด์ในเครือ Index, BaNANA IT และ OfficeMate เพื่อครอบคลุมสินค้าทุกโปรดักต์ เรียกว่ามาที่เราแล้วครบจบในที่เดียว”

 

‘วันนี้’ เพื่อ ‘วันพรุ่งนี้’ 

คุณเอปิดท้ายถึงหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ “ผมเชื่อว่าหัวใจของการทำธุรกิจคือการวางแผนให้รอบคอบ เนื่องจากเราไม่มีทางรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตบ้าง เหมือนที่วันหนึ่งวงการธนาคารต้องเจอกับเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งปัจจุบันทั้งบล็อกเชนกับคริปโตเคอร์เรนซีก็เผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่อีก เหมือนโลกต้องเจอกับการดิสรัปชันตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเราต้องไม่ประมาท และพร้อมปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลกอยู่เสมอ เพื่อจะวางแผนการตลาดและการบริการที่ดีให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจ เกิดการซื้อซ้ำและบอกต่อ นี่คือสิ่งที่เราให้ความสำคัญและตั้งใจจะทำให้ดีที่สุดครับ”  

 

คิงส์วัสดุ โฮมเซ็นเตอร์
https://www.facebook.com/kingwatsadu.official/

เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 18.00 น.
โทร. 045-615-333 หรือ 082-319-8800

 


สอบถามเรื่องการติดตั้งและใช้งาน สามารถเพิ่ม ชาญไพบูลย์ เป็นเพื่อนทาง LINE ได้ที่ @Rasland หรือสอบถามรายละเอียดการซื้อสินค้าได้ที่ LINE @Charnpaiboon.sales Telephone number 02-285-5795

ชาญไพบูลย์ ร้านค้าออนไลน์
Shopee: https://bit.ly/3H64bTv
Lazada: https://bit.ly/3LJtpup

กดติดตาม Facebook: ชาญไพบูลย์ l CharnPaiboon และทำความรู้จักแบรนด์ชาญไพบูลย์เพิ่มเติม กับหลักไมล์สำคัญในวาระครบรอบ 50 ปีได้ที่ www.charnpaiboon.com

home-sukkapan

นพ อนุรุทธิ์เนตรศิริ ทำอย่างไร โฮมสุขภัณฑ์ จึงเป็นแหล่งรวมสินค้าห้องน้ำที่อยู่ในใจคนเชียงใหม่มากว่า 40 ปี

นพ อนุรุทธิ์เนตรศิริ ทำอย่างไร โฮมสุขภัณฑ์ จึงเป็นแหล่งรวมสินค้าห้องน้ำที่อยู่ในใจคนเชียงใหม่มากว่า 40 ปี 

 

ทุกวันนี้ตลาดสินค้าสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดขึ้นทุกที แต่สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ ‘โฮมสุขภัณฑ์’ คือแบรนด์ต้นๆ ที่อยู่ในหัวใจของคนเชียงใหม่มานานกว่า 40 ปี
 

จากไม้ปาเก้ สู่ธุรกิจสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
คุณนพ อนุรุทธิ์เนตรศิริ เล่าถึงจุดเริ่มต้นของธุรกิจในสมัยคุณพ่อ “เดิมทีบริษัทของเราชื่อ ‘ห้างหุ้นส่วนจำกัด เชียงใหม่ลำปางป้าเก้สุขภัณฑ์’ เปิดกิจการเมื่อปี 2524 ครับ หน้าร้านอยู่ที่ถนนช้างเผือก จังหวัดเชียงใหม่ จำหน่ายผลิตภัณฑ์กระเบื้องเซรามิค สุขภัณฑ์ ไม้พื้นปาเก้ และวัสดุตกแต่งบ้าน แต่หลังจากนั้นไม่นาน รัฐบาลมีนโยบายปิดป่า เราจึงเลิกผลิตไม้พื้น แล้วหันมาทำสินค้ากระเบื้องและสุขภัณฑ์อย่างเต็มตัว

“เมื่อธุรกิจเติบโตขึ้น ที่จอดรถของร้านเริ่มไม่พอ ในขณะที่รถขนส่งขนาดใหญ่ก็เข้ามาในตัวเมืองหลังบ่าย 3 โมงไม่ได้ ผมจึงคุยกับคุณพ่อเรื่องย้ายที่ตั้งร้าน ก่อนจะมาลงตัวที่ถนนวงแหวนรอบ 2 (หลังมหาวิทยาลัยพายัพ) ซึ่งในขณะนั้นเป็นถนนเส้นใหม่ที่เพิ่งตัดเสร็จ โดยพื้นที่ปัจจุบันของเรามี 35 ไร่ เป็นโชว์รูม 7,000 ตารางเมตร

“ปี 2548 เมื่อเปิดโชว์รูมในสถานที่แห่งใหม่ เราได้เปลี่ยนชื่อร้านเป็นโฮมสุขภัณฑ์ 54 เพราะผมมองว่าสำหรับคนรุ่นใหม่ ชื่อร้านเดิมจำได้ค่อนข้างยาก จึงเลือกคำว่า Home เพื่อสื่อสารถึงธุรกิจเกี่ยวบ้าน โดยมีสุขภัณฑ์เป็นสินค้าหลัก และในปี 2558 เราก็ขยายสาขาไปที่จังหวัดเชียงราย และเปิดสาขาย่อยที่อำเภอแม่สายในปี 2562 ด้วยครับ”

 
การปรับตัวสู้ยักษ์ใหญ่จากกรุงเทพฯ 

“ด้วยความที่เราเป็นธุรกิจท้องถิ่น ทำให้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนในพื้นที่ ซึ่งวัฒนธรรมการซื้อของสำหรับคนต่างจังหวัดยังอาศัยเรื่องของการรู้จักกัน และโปรโมชันที่น่าสนใจ นี่จึงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญมาตลอด

“ขณะเดียวกัน ในช่วงปี 2543 เริ่มมีห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่จากกรุงเทพฯ เข้ามาเปิดกิจการที่เชียงใหม่ ทำให้ร้านค้าท้องถิ่นค่อยๆ หายไป ผมรู้ทันทีว่าถ้าเราไม่ปรับตัวและทำแผนการตลาดให้ดีก็อาจจะลำบากได้

“ผมไปดูร้านค้าที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกับเราที่กรุงเทพฯ อย่างบุญถาวร ซึ่งเป็นเป็นต้นแบบให้เราได้ศึกษาและพัฒนาธุรกิจ โดยบุญถาวรเริ่มต้นจากร้านเล็กๆ ย่านรัชดา ก่อนจะขยายสาขารอบสี่มุมเมือง และปัจจุบันก็ได้ขยายสาขาออกไปต่างจังหวัดหลายสาขา พร้อมทั้งพัฒนาร้านให้ทันสมัย มีการเปลี่ยนรูปแบบการจัดวางสินค้าให้สวยงาม ติดป้ายสื่อสาร การจัดแยกประเภทสินค้า ทำให้ผมคิดว่า ในอนาคตอันใกล้ ธุรกิจโมเดิร์นเทรดเหล่านี้จะมาเปิดที่เชียงใหม่แน่นอน

“ธุรกิจท้องถิ่นอย่างเราจะหยุดอยู่กับที่ไม่ได้ ผมจึงพัฒนาโฮมสุขภัณฑ์ในทุกด้าน ตั้งแต่มาตรฐานการให้บริการ แผนการตลาดออฟไลน์และออนไลน์ เช่น การโฆษณาผ่านจอดิจิทัลบิลบอร์ดตามสี่แยกในเมือง รวมถึงทำเว็บไซต์ Facebook และ LINE เพื่อเป็นเครื่องมือสื่อสารในด้านการขาย และบริการให้รวดเร็วมากขึ้น”

 
Bathroom and Kitchen Specialist 

คุณนพเล่าถึงเส้นทางการทำธุรกิจ และเป้าหมายของโฮมสุขภัณฑ์ “สโลแกนของเราคือ Bathroom and Kitchen Specialist เป็นคำที่ผมอยากสื่อสารกับลูกค้าว่า เราเป็นผู้ชำนาญการด้านห้องน้ำกับห้องครัว เป็นจุดขายที่ทำให้คนรู้ว่าถ้าเป็นสองเรื่องนี้ ต้องนึกถึงโฮมสุขภัณฑ์ (ยิ้ม)

“เราเน้นสินค้ากระเบื้องและสุขภัณฑ์เป็นหลัก ซึ่งสินค้าในกลุ่มนี้เหมือนแฟชั่นที่มีดีไซน์สวยงาม และมีการอัพเดทเทรนด์ใหม่ๆ ตลอดเวลา โดยเฉพาะกระเบื้อง ที่ผมเชื่อว่าโฮมสุขภัณฑ์มีตัวเลือกที่หลากหลายกว่าหลายเจ้า เนื่องจากเรานำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ เช่น อินเดีย ที่มีโรงงานกระเบื้องเซรามิกกว่า 1,000 แห่ง สินค้าที่นั่นมีดีไซน์ที่สวยและสีสันฉูดฉาด เนื่องจากโรงงานชั้นนำหลายแห่งซื้อเครื่องจักรและวัตถุดิบจากอิตาลีกับสเปน ซึ่งเป็นยอดฝีมือในด้านนี้ ทำให้อินเดียผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูง และขายในราคาที่ย่อมเยากว่าในทวีปยุโรป นอกจากนี้ยังมีการนำเข้าจากจีน ซึ่งทั้งสองประเทศนี้คือแหล่งผลิตกระเบื้องเซรามิคอันดับต้นๆ ของโลก”

 
โฮมสุขภัณฑ์ x ชาญไพบูลย์

“เราเป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับชาญไพบูลย์มากว่า 30 ปีแล้วครับ ตั้งแต่สมัยที่ร้านยังอยู่ที่ถนนช้างเผือก ในขณะที่ชาญไพบูลย์ก็มีการพัฒนาอยู่ตลอด ทั้งการรีแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก การพัฒนาคุณภาพและนำเข้าสินค้า ดูได้จากผลิตภัณฑ์ในรุ่นหลังๆ ที่มีดีไซน์ที่สวยและทันสมัยขึ้น ในขณะที่ราคาก็จับต้องได้

“ต้องบอกว่าเราขายสินค้าทุกอย่างของชาญไพบูลย์ อย่างที่สาขาใหญ่ก็มีโชว์รูม Rasland ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 100 ตารางเมตร ลงสินค้าได้ครบถ้วน ทั้งก๊อกน้ำ สายชำระ และสินค้าสุขภัณฑ์ต่างๆ

“นอกจากนี้ เวลาเราจัดอีเวนต์หรือโปรโมชันก็จะได้รับความช่วยเหลืออย่างดีมาตลอด อย่างในเดือนธันวาคมของทุกปี เราจะจัดงานโฮมสุขภัณฑ์แฟร์ ซึ่งเป็นอีเวนต์ใหญ่ ชาญไพบูลย์จะเป็นแบรนด์หลักที่มาร่วมงาน และผลตอบรับก็ดีมาก ลูกค้าเข้ามาซื้อผลิตภัณฑ์ของชาญไพบูลย์ค่อนข้างเยอะ

“สำหรับผม เราเป็นคู่ค้าที่ช่วยส่งเสริมให้เติบโตไปด้วยกัน ไม่ว่าโฮมสุขภัณฑ์จะขยายสาขาไปที่ไหนก็จะเตรียมพื้นที่ของชาญไพบูลย์ไว้เสมอ อย่างในปีนี้เราวางแผนเปิดสาขาใหม่ที่จังหวัดพะเยา ก็จะมีสินค้าของชาญไพบูลย์ด้วยแน่นอน เรียกว่าไปไหนไปกันตลอดครับ (ยิ้ม)”

 
โฮมสุขภัณฑ์ เชียงใหม่ (สำนักงานใหญ่)
เปิดทุกวัน เวลา 08.30–18.30 น.
โทร. 053-126-000-3

 


ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชาญไพบูลย์และสินค้าในเครือติดตามได้ที่
WEBSITE – www.charnpaiboon.com
FACEBOOK PAGE –  facebook.com/charnpaiboongroup
LINE OFFICIAL ACCOUNT – @Rasland
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2285-5795
preloader