ปลูกน้องในห้องน้ำ 10 ต้นไม้ในห้องน้ำเลี้ยงง่าย ดูแลไม่ยาก

ปลูกน้องในห้องน้ำ 10 ต้นไม้ในห้องน้ำ เลี้ยงง่าย ดูแลไม่ยาก

 

อย่าเพิ่งให้ความฮิตในการปลูกต้นไม้ในบ้านหายไปง่ายๆ เพราะเชื่อหรือไม่ว่าการปลูก ต้นไม้ในห้องน้ำ ช่วยเปลี่ยนห้องน้ำที่เหงาๆ เฉาๆ ให้มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันตา เพราะสีเขียวของต้นไม้นอกจากจะมองไปแล้วสบายตาแล้ว ยังมีฟังก์ชันที่ช่วยดูดซับกลิ่นอันไม่พึงประสงค์อีกด้วย

ไม่ต้องกลัวว่าน้องจะตายกันง่ายๆ เพราะวันนี้ ชาญไพบูลย์ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรื่องห้องน้ำ ขอแนะนำต้นไม้ที่ปลูกได้ในห้องน้ำฉบับเลี้ยงง่าย ดูแลไม่ยาก ใครที่คิดว่าตัวเองมือร้อนแค่ไหน ลองลิสต์นี้ที่ไม่ต้องรดน้ำจนแฉะ แค่ให้น้องอยู่ในสภาพความชื้นและปรับเปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อยๆ ให้เจอแสงแดดที่พอเหมาะ รับรองว่าต้นไม้เหล่านี้จะอยู่กับเราไปยาวๆ

 

เริ่มต้นด้วยต้นไม้ตระกูลพลูที่เราคุ้นเคย ซึ่งความจริงแล้วไม่ว่าจะเป็นพลูด่าง, พลูอินโด, พลูหัวใจ ก็เป็นต้นไม้ที่สามารถปลูกได้ในน้ำและวางน้องไว้ในห้องน้ำได้ทั้งสิ้น แต่ที่เลือก ราชินีหินอ่อน มา เพราะกระแสไม้ด่างที่แม้ว่าจะแผ่วลงไปบ้าง แต่ลวดลายสีขาวแซมเขียวที่เป็นริ้วไร้ระเบียบก็ยังเป็นเสน่ห์อยู่มาก สังเกตได้ว่าราชินีหินอ่อนจะแซมด้วยลายสีขาวที่ไม่มีใบไหนเหมือนกัน

และเพราะน้องเป็นไม้ฟอกอากาศ แถมทนต่อสภาพอากาศที่หลากหลายได้ดี ราชินีหินอ่อนจึงเป็นต้นไม้ที่เหมาะจะปลูกในห้องน้ำมากๆ เพราะช่วยดูดกลิ่น แถมยังไม่ต้องการการประคบประหงมมากนัก วางน้องในตำแหน่งที่แดดส่องมาอ่อนๆ อย่างบนชักโครกหรือชั้นวางของในห้องน้ำ น้องก็สามารถอยู่รอดได้ ส่วนการรดน้ำจะรดทุกวันหรือ 2-3 วันครั้งก็ได้ แต่ยิ่งชื้นมากเท่าไร น้องก็ยิ่งแตกใบเร็วเท่านั้น

 

ลำดับถัดมาก็ยังเชียร์ต้นไม้ในตระกูลพลูเหมือนเดิม เพราะน้องเหมาะกับมือใหม่ในการปลูกมากๆ ฟอร์มต้นสวย เพราะสามารถโตได้ในกระถาง แถมเลื้อยลงมาให้รูปทรงที่งดงาม สามารถประดับน้องได้ทั้งห้องน้ำ โต๊ะรับแขก หรือโซนอื่นๆ ของบ้าน จุดเด่นของ พลูฉลุ คือใบที่มีรูเว้าเล็กใหญ่สลับกันไปราวกับว่ามีใครมาฉลุใบให้เป็นลาย แถมยังเป็นไม้ฟอกอากาศ บวกด้วยความเชื่อว่าเป็นไม้มงคลใครเห็นก็เมตตา จึงไม่เสียหายหากจะลองเลี้ยงน้องสักต้น

แม้ว่าจะปลูกในน้ำก็ได้ แต่เพื่อการเติบโตที่ดีควรปลูกพลูฉลุในดินร่วนผสมทรายและปุ๋ยคอก และรดน้ำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง โดยเริ่มรดจากปลายยอดให้น้ำไหลลงมาเรื่อยๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น เพราะสิ่งที่น้องต้องการมากที่สุดคืออากาศที่ชื้น น้องจึงเหมาะกับการปลูกในห้องน้ำที่มีความชื้นตลอดเวลา ส่วนแสงแดด เพื่อให้ใบมีสีเข้มสวย ควรวางน้องในบริเวณที่แดดส่องถึง หรือถ้าห้องน้ำมีแดดรำไร เอาน้องมาโดนแดดครึ่งเช้าสักสัปดาห์ละครั้งก็พอ

 

ถ้าจะนับความมหัศจรรย์ของต้นไม้สักชนิด คล้าน่าจะเป็นพืชหนึ่งที่โดดเด่นในเรื่องนี้มาก เพราะตอนกลางวันคล้าจะชูใบเบ่งบานคลี่ตัวออกรับแสงอาทิตย์ แต่เมื่อไรที่ตกเย็นแสงหมด พืชตระกูลคล้าก็จะพากันหุบใบราวกับจำศีลเก็บพลังงาน รวมถึง คล้านกยูง ที่เราแนะนำให้ปลูกในห้องน้ำด้วยเช่นกัน ด้วยลวดลายของใบที่มีสีสวยงามราวกับนกยูงรำแพนหาง จึงเหมาะกับการปลูกประดับตามอาคาร โดยเฉพาะถ้าใครต้องการห้องน้ำที่มีสีสัน ดูเป็นป่าดิบชื้น ก็สามารถใช้พื้นตระกูลคล้าหรือเฟิร์น เสริมด้วยใบของพลูชนิดต่างๆ ก็ทำให้ห้องน้ำดูสดชื่นขึ้นได้

คล้าเป็นพืชที่ต้องการความชื้นสูงมาก เพราะฉะนั้นถ้าวางน้องไว้ในห้องแอร์เมื่อไร ใบจะไหม้ทันที ควรวางคล้าไว้ในห้องน้ำ เสริมด้วยการฉีดฟอกกี้ และต้องรดน้ำเป็นประจำทุกวัน เพราะถ้าเมื่อไรที่หน้าดินแห้ง ใบของคล้าจะเริ่มหงิกงอ ส่วนเรื่องแดด น้องค่อนข้างเซนซิทีฟกับแดดจัด เพราะฉะนั้นวางน้องในจุดที่โดนแสงแดดอ่อนๆ ก็พอ

 

เฟิร์นบอสตัน เป็นหนึ่งในพืชตระกูลเฟิร์นที่อยู่คู่กับโลกมาเป็นเวลานาน จุดเด่นของเฟิร์นบอสตันคือรูปทรงของน้องแสดงถึงความเป็นทรอปิคัลมาก ใครที่อยากแต่งห้องน้ำให้ดูสดใสและมีพื้นที่ไม่มากนัก เฟิร์นบอสตันอาจเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะทำให้นึกถึงป่าดิบชื้น แถมสามารถปลูกด้วยการกระถางแบบแขวน ประหยัดพื้นที่ไปอีก

เฟิร์นบอสตันอาจไม่ได้ต้องการน้ำน้อยแบบต้นไม้อื่นๆ ในลิสต์ เพราะนอกจากความชื้นที่ต้องการตลอดเวลาแล้ว เราอาจต้องรดน้ำเฟิร์นบอสตันทุกวัน เพราะไม่อย่างนั้นใบน้องอาจจะไหม้หงิกได้ในทันที แต่ถ้ากลัวว่าน้ำแฉะเกินไป อาจใช้ฟอกกี้พ่นเป็นละอองเช้า-เย็น หรือเอาง่ายๆ ว่าทุกครั้งที่อาบน้ำก็ได้ ส่วนแสงแดด น้องต้องการแดดรำไรเหมือนต้นไม้ในห้องน้ำชนิดอื่นๆ แต่สัปดาห์ละครั้งควรเอาน้องออกมาแขวนรับแดดครึ่งเช้าก็จะทำให้ใบสวยขึ้น

 

แม้ว่าชื่อของ เศรษฐีเรือนใน จะดูเกี่ยวข้องกับเมตตามหานิยมหรือเรียกเงินเรียกทอง แต่ในขณะเดียวกันน้องคือต้นไม้ที่เหมาะสำหรับปลูกในห้องน้ำมากชนิดหนึ่ง เพราะว่าทนต่อสภาพอากาศ ไม่ต้องการน้ำเยอะ ที่สำคัญนี่คือต้นไม้ฟอกอากาศชนิดสำคัญที่ช่วยฟอกสารฟอร์มัลดีไฮด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ และไซลีน สารพิษในอุตสาหกรรมจำพวกทินเนอร์  กาว สีทาบ้าน หรือส่วนผสมของน้ำยาล้างเล็บได้ดีอีกด้วย

ข้อดีของเศรษฐีเรือนในคือน้องต้องการแสงแดดเพียงแค่เล็กน้อย เพราะฉะนั้นบ้านใครที่ห้องน้ำไม่ได้มีแสงมากนักก็เหมาะกับการปลูกต้นไม้ชนิดนี้มาก รวมถึงน้ำmujรดเพียงสัปดาห์ละ 2 ครั้งก็เพียงพอ เพราะน้องไม่ชอบน้ำมาก คุณสมบัติเพียบพร้อมขนาดนี้ ใครที่อยากได้ต้นไม้แต่งห้องน้ำที่ไม่ต้องดูแลมาก รีบจัดหาน้องมาแบบด่วนๆ ได้เลย

 

สำหรับชาวคอนโด หอพัก หรือคนที่มีห้องน้ำขนาดเล็ก รับรองว่าต้องถูกใจ #กวักมรกต เพราะฟอร์มใบที่ไม่ได้ใหญ่จนกินพื้นที่มากมายแล้ว ต้นไม้ชนิดนี้ยังสามารถปลูกได้ทั้งในดินใส่กระถางวางไว้ที่พื้น หรือใส่ไว้ในแจกันปลูกในน้ำก็สามารถทำได้ แถมยังช่วยฟอกอากาศได้อีกด้วย แค่นั้นยังไม่พอสำหรับสายมู ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่ากวักมรกต ใครที่เลี้ยงต้นไม้ชนิดนี้จึงเชื่อว่าจะนำพามาซึ่งโชคลาภ กวักเงินกวักทองเข้าบ้าน ซึ่งอันนี้แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคน

ส่วนการเลี้ยงดู ถ้าปลูกในดิน กวักมรกตเป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย รดน้ำเพียงสัปดาห์ละ 2 ครั้งน้องก็สามารถอยู่ได้ ส่วนสายที่ปลูกในน้ำก็สามารถใส่ปุ๋ยละลายน้ำสักเดือนละครั้ง ส่วนแสงแดด น้องก็ต้องการแค่แสงรำไร แสงส่องไม่ถึงก็ไม่เป็นไรเพราะกวักมรกตเป็นต้นไม้ที่เข้าข่ายปลูกง่ายตายยากต้นหนึ่ง ใครที่คิดว่าตัวเองปลูกต้นอะไรก็พาตายกันไปหมด เริ่มที่กวักมรกตก็ดูจะมีความหวังขึ้น

 

ชาวมือร้อนมาทางนี้! ใครที่ปลูกต้นไม้ปลูกเท่าไรก็ตายเรียบ เราขอเสนอน้องคนที่อึด ถึก ทนกว่าต้นไหนๆ ในลิสต์นี้ (และลิสต์ต้นไม้เพื่อนบ้านอีกหลายลิสต์ มั่นใจ!) นั่นคือ ลิ้นมังกร ต้นนี้นี่เอง

เพราะต้นลิ้นมังกร จุดเด่นของน้องจะอยู่ที่ใบที่มีความหนา อวบอิ่ม ที่ดูดน้ำครั้งหนึ่งก็สามารถอยู่ได้หลายวัน คล้ายต้นไม้ในทะเลทรายที่ทนต่อความแห้งแล้งและทุกๆ สภาพอากาศ เพราะฉะนั้นแล้วนี่จึงเป็นต้นไม้ที่เหมาะกับชาวขี้เกียจเป็นอย่างมาก เพราะรดน้ำ 3-5 วันครั้ง น้องก็สามารถอยู่ได้ ถ้าขยันรดน้ำมากจนเกินไปก็อาจทำให้เน่าได้ ส่วนแสงแดด ถ้าให้ดีลองวางน้องให้อยู่ในตำแหน่งที่แดดส่องถึง ใบของน้องก็จะมีความมันเงาสวยงามมากขึ้น แต่ถ้าห้องน้ำใครที่แสงแดดส่องมาถึงก็แค่เอาน้องมาตากแดดสัปดาห์ละครั้งก็พอ

 

แม้ว่า เดหลี จะไม่ใช่ต้นไม้ยอดฮิต แต่ใครที่ได้ลองปลูกสักครั้งแล้วจะติดใจ เพราะใบสีเขียวเข้มที่มันเงา ฟอร์มใบเล็กๆ ทำให้สีเขียวที่เป็นกลุ่มก้อนดูหนาแน่น ดูแล้วสบายตา ดอกสีขาวที่ชูช่อขึ้นเป็นรูปกรวยก็ดูน่ารัก สามารถใช้ประดับตกแต่งตามมุมต่างๆ ของบ้าน และที่สำคัญ เดหลีเป็นไม้ฟอกอากาศ ช่วยดูดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ในห้องน้ำ กรองฝุ่นละออง และคายความชื้น

วิธีการดูแลเดหลีก็ไม่ได้ยากจนเกินไป เพียงปลูกน้องในดินร่วนซุยแล้วใส่ในกระถางที่มีรูระบายน้ำ เพราะน้องไม่ชอบน้ำขัง แต่หน้าดินต้องไม่แห้งชื้น รดน้ำบ่อยๆ ได้ทุกวัน ยิ่งถ้าปลูกในห้องน้ำก็พรมน้ำสักหน่อยระหว่างอาบ น้องก็อยู่รอด ส่วนแสงแดด น้องไม่ชอบแดดจัด เพียงอยู่ในที่ร่มที่มีแสงรำไรแบบในห้องน้ำน้องก็สามารถแตกใบและออกดอกได้ดี

 

บีโกเนีย เป็นพันธุ์ไม้ที่แตกแยกย่อยออกเป็นอีกหลายสายพันธุ์ แต่จุดเด่นอย่างหนึ่งที่ร่วมกันก็คือมีดอกสีสันสดใส หรือมีใบที่มีลวดลายโดดเด่น ทั้งลายที่เป็นสีๆ และเป็นจุด สร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก ถ้าใครอยากแต่งห้องน้ำที่มีเอกลักษณ์ สีสันฉูดฉาด หรือต้องการพันธุ์ไม้ที่เพิ่มความสนุกสนานให้กับสไตล์ของตัวเอง รับรองว่าเลือกต้นบีโกเนียไม่ผิดหวัง

บีโกเนียสามารถปลูกได้ในดินร่วนที่ระบายน้ำได้ดี ชอบที่ร่ม มีแสงรำไร ระบายน้ำและระบายอากาศได้ดี ที่สำคัญคือน้องต้องการความชื้นสูงมาก ถ้าเมื่อไรความชื้นในอากาศไม่พอ ขอบใบจะเริ่มเป็นสีน้ำตาลไหม้ น้องจึงเหมาะจะปลูกในห้องน้ำมาก หรือเพื่อลดความเสี่ยง ลองปลูกน้องบีโกเนียร่วมต้นไม้อื่นๆ ก็จะได้ฟังก์ชันทั้งการตกแต่งและลดอาการขอบใบไหม้ของน้องด้วย

 

ถ้าใครมีห้องน้ำที่กว้างสักหน่อย และอยากมีต้นไม้ใหญ่ที่เป็นแลนด์มาร์กจุดนำสายตาในห้องน้ำ เราขอแนะนำต้นไม้ที่คุ้นเคยของเหล่าฮิปสเตอร์เมืองไทยอย่าง มอนสเตอร่า ที่เคยฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง จนปีสองปีที่แล้วราคาสูงลิ่วจนน่าตกใจ แต่ว่าตอนนี้น้องมอนสเตอร่าราคากลับมาสมเหตุสมผลและจับต้องได้แล้ว ซึ่งเจ้าต้นไม้ชนิดนี้มีความหลากหลายถึง 50 สายพันธุ์ แต่ในท้องตลาดเมืองไทยส่วนใหญ่มักเป็นไจแอนต์มอนสเตอร่า ที่ถ้าเลี้ยงดีๆ หรือเปลี่ยนกระถางอยู่เสมอ ลำต้นและใบจะใหญ่ สวยงามจนสามารถเป็นพร็อพคู่อ่างอาบน้ำได้อย่างสบายๆ

การดูแลต้นมอนสเตอร่าไม่ยาก เพราะว่าไม่ต้องการแสงแดดมากนัก แถมต้องการความชื้น น้องจึงเหมาะสำหรับการปลูกในห้องน้ำมาก แค่เพียงวางในตำแหน่งในห้องน้ำที่มีแสงแดดรำไร เปิดประตูหน้าต่างบ้างให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกในช่วงกลางวันจะทำให้ใบเขียวเงาสดขึ้น ข้อสำคัญคืออย่าเอาน้องไปโดดแดดตรงๆ เด็ดขาด เพราะใบจะไหม้ทันที ส่วนการรดน้ำ 2 วันรดครั้งก็พอไหว แค่ลองเอานิ้วแตะๆ ผิวหน้าดินว่ายังแฉะอยู่หรือเปล่า ถ้ายังแฉะอยู่ก็เว้นไปได้ แต่เริ่มแห้งเมื่อไหร่รดน้ำได้ทันที

 

 

---